เมื่อเขียนการทดสอบอัตโนมัติสําหรับแอปพลิเคชัน WebRTC คุณจะเปิดใช้การกําหนดค่าที่มีประโยชน์สําหรับเบราว์เซอร์ได้ ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาและการทดสอบง่ายขึ้น
Chrome
เมื่อทำการทดสอบอัตโนมัติใน Chrome อาร์กิวเมนต์ต่อไปนี้จะมีประโยชน์เมื่อเปิดใช้งาน
--allow-file-access-from-files
- อนุญาตการเข้าถึง API สําหรับ URL file://--disable-translate
- ปิดใช้ป๊อปอัปคำแปล--use-fake-ui-for-media-stream
- ระบุสตรีมสื่อปลอม มีประโยชน์เมื่อทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ CI--use-file-for-fake-audio-capture=<filename>
- ระบุไฟล์ที่จะใช้เมื่อบันทึกเสียง--use-file-for-fake-video-capture=<filename>
- ระบุไฟล์ที่จะใช้เมื่อบันทึกวิดีโอ--headless
- ทำงานในโหมดไม่มีส่วนหัว มีประโยชน์เมื่อใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ CI--mute-audio
- ปิดเสียงเอาต์พุต
Firefox
เมื่อทำการทดสอบอัตโนมัติใน Firefox เราจะต้องระบุชุดคีย์ค่ากําหนดที่จะใช้ในอินสแตนซ์ที่เปิดใช้งาน ด้านล่างนี้คือการกำหนดค่าที่ใช้สำหรับการทดสอบอัตโนมัติของตัวอย่าง WebRTC
"prefs": {
"browser.cache.disk.enable": false,
"browser.cache.disk.capacity": 0,
"browser.cache.disk.smart_size.enabled": false,
"browser.cache.disk.smart_size.first_run": false,
"browser.sessionstore.resume_from_crash": false,
"browser.startup.page": 0,
"media.navigator.streams.fake": true,
"media.navigator.permission.disabled": true,
"device.storage.enabled": false,
"media.gstreamer.enabled": false,
"browser.startup.homepage": "about:blank",
"browser.startup.firstrunSkipsHomepage": false,
"extensions.update.enabled": false,
"app.update.enabled": false,
"network.http.use-cache": false,
"browser.shell.checkDefaultBrowser": false
}